วันพุธที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ปัญหาที่เกิดกับแม่พิมพ์ Die Casting

ปัญหาที่เกิดจากงาน Die Casting
ปัญหาจากการทำงาน Die Casting ที่หน้้างานมีให้เห็นอยู่มากมายหลายชนิด ทั้งที่เกิดขึ้นกับแม่พิมพ์ ชิ้นงาน และแม้แต่กระทั่งเครื่องฉีดก็มีผลทำให้เกิดปัญหาในการทำงาน Die Casting ขึ้นทั้งสิ้น ซึ่งแต่ละปัญหาก็จะมีแนวทางแก้ไขที่แตกต่างกัน ผู้ทำงานในด้าน Die Casting ต้องศึกษาและเข้าใจถึงต้นเหตุของปัญหาเสียก่อน จึงจะสามารถนำปัญหาเหล่านั้นมาทำการแก้ไขต่อไปได้ ปัญหาที่เกิดกับแม่พิมพ์ Die Casting มีตัวอย่างดังนี้

1.เศษอะลูมิเนียมติดภายในแม่พิมพ์ ปัญหานี้สามารถเกิดขึ้นได้บ่อยๆ ในการทำงานฉีดอะลูมิเนียม เนื่องจากอุณหภูมิที่ผิดปกติ หรือการล้างหน้าแม่พิมพ์ไม่ตรงจุด ก็สามารถทำให้เศษที่่มาจากการฉีดยังติดอยู่ที่แม่พิมพ์ ไม่ว่าจะเป็นเศษบางหรือเล็กขนาดไหน ก็จะทำให้ชิ้นงานที่ออกมาไม่ตรงตามความต้องการ ซึ่งปัญหานี้มักเกิดจากการฉีดงานเป็นเวลานานๆ หรือแม้กระทั่งแม่พิมพ์มีส่วนที่แตกหรือสึก ก็ทำให้เกิดปัญหาการมีอะลูมิเนียมติดแม่พิมพ์ขณะทำการฉีดได้ ซึ่ง
การแก้ไขปัญหานี้คือการขัดแม่พิมพ์โดยใช้หินขัดขัดไปที่ส่วนที่มีอะลูมิเนียมติดอยู่ให้หลุดออกจากแม่พิมพ์ จากนั้นจึงจะสามารถฉีดชิ้นงานต่อไปได้
2.ชิ้นงานติดแม่พิมพ์ขณะฉีด ปัญหานี้หากไม่มีพนักงานคอยดูเสมออาจทำให้แม่พิมพ์เสียหายหนักได้ เพราะเมื่อชิ้นงานติดแม่พิมพ์แล้วเซ็นเซอร์ไม่ทำการตัดหยุดเครื่องอัตโนมัติ หากเครื่องยังทำงานต่อโดยการปิดแม่พิมพ์แล้วฉีดซ้ำก็จะทำให้แม่พิมพ์แตกได้ ปัญหาชิ้นงานติดแม่พิมพ์ส่วนใหญ่มักเกิดกับแม่พิมพ์ที่มีลักษณะซับซ้อนและมี Core Pin หลายตัว หรือ Core Pin ที่มีขนาดเล็ก จนทำให้มีเศษบางๆ เคลือบอยู่รอบ Core Pin เมื่อฉีดในรอบถัดไปก็จะทำให้ชิ้นงานติดแม่พิมพ์ได้ง่าย ปัญหานี้จะต้องแก้ไขโดยการตั้งท่อของ Cassete Sprey ให้ตรงตำแหน่ง เพื่อป้องกันไม่ให้มีเศษอะลูมิเนียมติดที่ Core Pin และหมั่นตรวจสอบ Core Pin ตามรอบอายุการใช้งาน เนื่องจากหาก Core Pin หมดคุณสมบัติของการลื่นไหลแล้วก็จะทำให้เกิดปัญหานี้ได้บ่อยครั้ง
3.แม่พิมพ์แตก ปัญหานี้สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นจากสาเหตุข้อ 2 หรือข้อ1 ก็สามารถทำให้เกิดปัญหานี้ได้ และโดยส่วนใหญ่แล้วหากอายุการใช้งานของแม่พิมพ์มากเกินไปก็ทำให้แม่พิมพ์แตกได้เช่นกัน การป้องกันปัญหานี้คือต้องตรวจสอบอายุการใช้งานของแม่พิมพ์ให้แม่นยำ เนื่องจากการฉีดงานที่อุณหภูมิสูงจะทำให้อายุการใช้งานของแม่พิมพ์นั้นสั้นลงเร็วกว่าแม่พิมพ์ชนิดอื่นๆ และป้องกันปัญหาจากข้อ 1 และ 2 ให้ได้ ก็จะช่วยเพิ่มอายุการใช้งานและลดปัญหาแม่พิมพ์แตกก่อนเวลาได้อีกด้วย ส่วนการแก้ไขปัญหาแ่ม่พิมพ์แตกสามารถทำได้โดยการเชื่อมจุดที่แตก แล้วทำการขัดตกแต่งแม่พิมพ์ให้อยู่ในสภาพเดิม
4.Core Pin หัก แหว่งหรือคด ปัญหานี้มักเกิดกับ Core Pin ที่มีขนาดเล็กและอยู่ในตำแหน่งที่ลึกที่สุดของชิ้นงาน การป้องกันปัญหานี้จะต้องทราบอายุการใช้งานของ Core Pin และหมั่นตรวจสอบอยู่เสมอเพื่อป้องกันเศษอะลูมิเนียมติดอยู่ที่ Core Pin จนอาจเกิดการหักงอตามมาได้ การแก้ไขในส่วนนี้จำเป็นจะต้องเปลี่ยน Core Pin ใหม่ หากเป็น Core Pin แบบไม่สามารถเปลี่ยนได้ จะต้องทำการออกแบบใหม่โดยทำการเจาะส่วนที่เป็น Core Pin และพื้นที่รอบข้างที่สามารถเจาะได้ แล้วเปลี่ยนส่วนนั้นให้เป็นแบบถอดเปลี่ยนได้ เพื่อให้ง่ายต่อการซ่อมแซมแม่พิมพ์หากเกิดปัญหานี้ซ้ำในจุดเดิม แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว Core Pin ส่วนที่มักจะเกิดปัญหาจะถูกออกแบบให้สามารถถอดเปลี่ยนได้เสมอ
5.Ejector Pin สูงหรือต่ำเกินไป ปัญหาของ Ejector Pin อาจมีสาเหตุการเกิดได้หลายทางไ่ม่ว่าจะเป็นจากเครื่องจักร หรือการสึกหรอของ Ejector Pin เอง การตรวจสอบเบื้องต้นคือให้วางแม่พิมพ์ในแนวราบเพื่อตรวจสอบว่ามี Ejector Pin ในตำแหน่งใดบ้างที่สูงหรือต่ำเกินไปหรือไม่ เพราะการใช้ Ejector Pin เป็นระยะเวลานาน ก็สามารถเกิดการสึกหรอหรือคดงอของ Ejector Pinที่มีขนาดเล็กได้ หากพบว่ามี Ejector Pin ที่ผิดปกติ สามารถแก้ไขโดยการเปลี่ยน Ejector Pin ตัวนั้นออกไป แล้วนำตัวใหม่ที่มีความยาวตามมาตรฐานมาใส่แทน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น